above the line การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสื่อพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่าไร เหมาะสำหรับสินค้าหรือ brand ที่ติดตลาดแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อสร้างbrand awareness ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวbrandของสินค้ามากขึ้น
below the line การโฆษณาสินค้าโดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เน้นกลุ่มลูกค้าเช่นการยืนแจกสินค้าตัวอย่างสบู่ล้างหน้าหน้ามหาวิทยาลัย แจกขนมตัวอย่างหน้าโรงเรียนระดับมัธยม การออกบู๊ทต่างๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายน้อย เป็นที่นิยมเวลาออกสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ทำให้brand เป็นที่รู้จักเพราะไม่เข้าสู่คนกลุ่มมาก
Through the Line เป็นรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่รวมทั้งที่ผ่านและไม่ผ่านสื่อมวลชนเข้าด้วย กัน เพื่อผนึกกำลังให้ผ่านอุปสรรคทั้งปวงที่กีดขวางการบริหารตราสินค้าได้อย่าง มีประสิทธิภาพ และเป็นแนวคิดที่ช่วยสร้างความ สัมพันธ์ระหว่างตราสินค้า และลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เกิดความคงทนและยืนยาวได้ โดยผ่านประสบการณ์ของกิจกรรมการสื่อสารการตลาดในรูปแบบต่างๆ ที่ถูกคัดสรรแล้วจนทำให้ทุกจุดสัมผัสรอบตัวที่รายล้อมลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย จะช่วยสร้างความทรงจำ ความสัมพันธ์ที่ดีต่อตราสินค้าทั้งสิ้น และมีการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง”
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค
Below the Line คือการสื่อสารสองทางกับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่ที่มีจำนวนและขนาดจำกัด อาทิ การจัดกิจกรรมพิเศษทางการตลาด , การส่งเสริมการขาย, การจัดโรดโชว์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM:Customer Relationship Management)
Through the line คือการผสานพลังใหม่เพื่อประสิทธิภาพ โดย เป็นแนวคิดใหม่ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยกระหว่าง Above the Line หรือการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (Mass Media) อย่างโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โรงภาพยนตร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ ส่วน Below the Line คือการใช้สื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน(Non Mass Media) แม้ว่าจะไม่มีการแบ่งไลน์ แต่การสื่อสารไปถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ยังเป็นเอกภาพที่ชัดเจน” \
above the line การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสื่อพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่าไร เหมาะสำหรับสินค้าหรือ brand ที่ติดตลาดแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อสร้างbrand awareness ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวbrandของสินค้ามากขึ้น
below the line การโฆษณาสินค้าโดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เน้นกลุ่มลูกค้าเช่นการยืนแจกสินค้าตัวอย่างสบู่ล้างหน้าหน้ามหาวิทยาลัย แจกขนมตัวอย่างหน้าโรงเรียนระดับมัธยม การออกบู๊ทต่างๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายน้อย เป็นที่นิยมเวลาออกสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ทำให้brand เป็นที่รู้จักเพราะไม่เข้าสู่คนกลุ่มมาก
through the line เป็นแนวคิดใหม่ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยกระหว่าง Above the Line หรือการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (Mass Media) อย่างโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โรงภาพยนตร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ ส่วน Below the Line คือการใช้สื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน(Non Mass Media) แม้ว่าจะไม่มีการแบ่งไลน์ แต่การสื่อสารไปถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ยังเป็นเอกภาพที่ชัดเจน”
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค Below the line กันก่อนดีกว่าครับ Below the line เป็นกลุ่มของเครื่องมือการสื่อสารการตลาด ที่นอกเหนือจากการโฆษณาผ่านสื่อสาธารณะ (Mass Media) โดย Below the line ประกอบด้วย กิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น การส่งเสริมการขาย, Telemarketing, Event Marketing, Sponsorship, Electronic Media, Direct Mail และอื่นๆ ที่เหลือที่ไม่ใช้การโฆษณาผ่านสื่อหลักนั่นละครับ ใช่ Below the line ทั้งหมด
โดยที่มาของคำว่า Below the line ก็เกิดจากใบแจ้งหนี้ของบริษัทโฆษณาที่เสนองบประมาณค่าใช้จ่ายในการสื่อสารการตลาดให้กับบริษัทลูกค้าที่ในส่วนแรก (above the line) จะแจ้งหนี้ค่าซื้อสื่อโฆษณาทางวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และ Mass Media อื่นๆ เป็นรายการๆ จากนั้นจะรวมยอดค่าสื่อทั้งหมดเป็นยอดรวมก่อน ซึ่งบริษัทโฆษณาจะคิดว่าคอมมิชชั่นในการให้บริการซื้อสื่อกับลูกค้า โดยตามสูตรมาตรฐานสากล คือ 17.65% ของมูลค่าสื่อ ซึ่งในบ้านเราอาจมีทั้งที่จ่ายตามสูตรนี้หรือต่ำกว่านี้ ยอดนี้เป็นรายได้ค่าบริการของบริษัทโฆษณา
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค Below the Line เป็นการสื่อสารสองทางกับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่ที่มีจำนวนและขนาดจำกัด อาทิ การจัดกิจกรรมพิเศษทางการตลาด , การส่งเสริมการขาย, การจัดโรดโชว์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM:Customer Relationship Management) Through the Line นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่าง Below the Line และ Above the line ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า Above the line และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค Below the Line เป็นการสื่อสารสองทางกับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่ที่มีจำนวนและขนาดจำกัด อาทิ การจัดกิจกรรมพิเศษทางการตลาด , การส่งเสริมการขาย, การจัดโรดโชว์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM:Customer Relationship Management) Through the line คือ การส่งเสริมการตลาดที่รวมทั้งการสื่อสารผ่านสื่อในวงกว้างกับการสื่อสารที่เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเข้าด้วยกัน โดยเน้นการสื่อสารไปยังผู้บริโภคอย่างเป็นเอกภ่าพชัดเจน
(TTL) เป็นแนวคิดใหม่ที่มุ่งเน้นการสื่อสารไปยังผู้บริโภคและให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยกระหว่าง Above the Line หรือการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (Mass Media) อย่างโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โรงภาพยนตร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ ส่วน Below the Line คือการใช้สื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน(Non Mass Media) แม้ว่าจะไม่มีการแบ่งไลน์ แต่การสื่อสารไปถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ยังเป็นเอกภาพที่ชัดเจน
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค Below the line กันก่อนดีกว่าครับ Below the line เป็นกลุ่มของเครื่องมือการสื่อสารการตลาด ที่นอกเหนือจากการโฆษณาผ่านสื่อสาธารณะ (Mass Media) โดย Below the line ประกอบด้วย กิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น การส่งเสริมการขาย, Telemarketing, Event Marketing, Sponsorship, Electronic Media, Direct Mail และอื่นๆ ที่เหลือที่ไม่ใช้การโฆษณาผ่านสื่อหลักนั่นละครับ ใช่ Below the line ทั้งหมด Through the Line นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่าง Below the Line และ Above the line ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า Above the line และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน Through-the-lin นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่างบีโลว์เดอะไลน์ และอะบัพว์เดอะไลน์ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า "อะบัพว์เดอะไลน์" และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน (non-mass media)
above the line การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสื่อพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่าไร เหมาะสำหรับสินค้าหรือ brand ที่ติดตลาดแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อสร้างbrand awareness ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวbrandของสินค้ามากขึ้น
below the line การโฆษณาสินค้าโดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เน้นกลุ่มลูกค้าเช่นการยืนแจกสินค้าตัวอย่างสบู่ล้างหน้าหน้ามหาวิทยาลัย แจกขนมตัวอย่างหน้าโรงเรียนระดับมัธยม การออกบู๊ทต่างๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายน้อย เป็นที่นิยมเวลาออกสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ทำให้brand เป็นที่รู้จักเพราะไม่เข้าสู่คนกลุ่มมาก
through the line เป็นแนวคิดใหม่ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยกระหว่าง Above the Line หรือการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (Mass Media) อย่างโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โรงภาพยนตร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ ส่วน Below the Line คือการใช้สื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน(Non Mass Media) แม้ว่าจะไม่มีการแบ่งไลน์ แต่การสื่อสารไปถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ยังเป็นเอกภาพที่ชัดเจน”
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค Below the line กันก่อนดีกว่าครับ Below the line เป็นกลุ่มของเครื่องมือการสื่อสารการตลาด ที่นอกเหนือจากการโฆษณาผ่านสื่อสาธารณะ (Mass Media) โดย Below the line ประกอบด้วย กิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น การส่งเสริมการขาย, Telemarketing, Event Marketing, Sponsorship, Electronic Media, Direct Mail และอื่นๆ ที่เหลือที่ไม่ใช้การโฆษณาผ่านสื่อหลักนั่นละครับ ใช่ Below the line ทั้งหมด
โดยที่มาของคำว่า Below the line ก็เกิดจากใบแจ้งหนี้ของบริษัทโฆษณาที่เสนองบประมาณค่าใช้จ่ายในการสื่อสารการตลาดให้กับบริษัทลูกค้าที่ในส่วนแรก (above the line) จะแจ้งหนี้ค่าซื้อสื่อโฆษณาทางวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และ Mass Media อื่นๆ เป็นรายการๆ จากนั้นจะรวมยอดค่าสื่อทั้งหมดเป็นยอดรวมก่อน ซึ่งบริษัทโฆษณาจะคิดว่าคอมมิชชั่นในการให้บริการซื้อสื่อกับลูกค้า โดยตามสูตรมาตรฐานสากล คือ 17.65% ของมูลค่าสื่อ ซึ่งในบ้านเราอาจมีทั้งที่จ่ายตามสูตรนี้หรือต่ำกว่านี้ ยอดนี้เป็นรายได้ค่าบริการของบริษัทโฆษณา
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค Below the Line เป็นการสื่อสารสองทางกับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่ที่มีจำนวนและขนาดจำกัด อาทิ การจัดกิจกรรมพิเศษทางการตลาด , การส่งเสริมการขาย, การจัดโรดโชว์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM:Customer Relationship Management) Through the Line นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่าง Below the Line และ Above the line ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า Above the line และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน นางสาวเจนรัตน์ หุ่นย้อง เลขที่4 กต552
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค Below the line กันก่อนดีกว่าครับ Below the line เป็นกลุ่มของเครื่องมือการสื่อสารการตลาด ที่นอกเหนือจากการโฆษณาผ่านสื่อสาธารณะ (Mass Media) โดย Below the line ประกอบด้วย กิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น การส่งเสริมการขาย, Telemarketing, Event Marketing, Sponsorship, Electronic Media, Direct Mail และอื่นๆ ที่เหลือที่ไม่ใช้การโฆษณาผ่านสื่อหลักนั่นละครับ ใช่ Below the line ทั้งหมด Through the Line นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่าง Below the Line และ Above the line ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า Above the line และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน Through-the-lin นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่างบีโลว์เดอะไลน์ และอะบัพว์เดอะไลน์ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า "อะบัพว์เดอะไลน์" และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน (non-mass media) นางสาวรัชดาพร พูดงาม เลขที่35 กต552
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค below the line การโฆษณาสินค้าโดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เน้นกลุ่มลูกค้าเช่นการยืนแจกสินค้าตัวอย่างสบู่ล้างหน้าหน้ามหาวิทยาลัย แจกขนมตัวอย่างหน้าโรงเรียนระดับมัธยม การออกบู๊ทต่างๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายน้อย เป็นที่นิยมเวลาออกสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ทำให้brand เป็นที่รู้จักเพราะไม่เข้าสู่คนกลุ่มมาก Through the Line นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่าง Below the Line และ Above the line ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า Above the line และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน นางสาวนิจวรรณ พวงแก้ว เลขที่14 กต.552
Above the line การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสื่อพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่าไร เหมาะสำหรับสินค้าหรือ brand ที่ติดตลาดแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อสร้างbrand awareness ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวbrandของสินค้ามากขึ้น Below the line การโฆษณาสินค้าโดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เน้นกลุ่มลูกค้าเช่นการยืนแจกสินค้าตัวอย่างสบู่ล้างหน้าหน้ามหาวิทยาลัย แจกขนมตัวอย่างหน้าโรงเรียนระดับมัธยม การออกบู๊ทต่างๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายน้อย เป็นที่นิยมเวลาออกสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ทำให้brand เป็นที่รู้จักเพราะไม่เข้าสู่คนกลุ่มมาก Through the line เป็นแนวคิดใหม่ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยกระหว่าง Above the Line หรือการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (Mass Media) อย่างโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โรงภาพยนตร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ ส่วน Below the Line คือการใช้สื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน (Non Mass Media) แม้ว่าจะไม่มีการแบ่งไลน์ แต่การสื่อสารไปถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ยังเป็นเอกภาพที่ชัดเจน
1.ALT คือ เป็นการซื้อและการทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อสร้างรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้าง ภายในเวลาระยะสั้น ๆอย่างรวดเร็ว
ตอบลบ2.BTL คือ เป็นการสื่อสารสองทางกับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่จำนวนมากและขนาดจำกัด
3.TTL คือ เป็นการระบุกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
สามารถวัดผลเร็วยอดขาย
สามารถกระตุ้นการปิดการขายให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ทันที
นางสาวพวงผกา ทะกัน เลขที่ 23
1.ATL คือ คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว
ตอบลบ2.BTL คือ ที่หวังผลในระยะสั้นมากกว่าที่จะเป็นกลยุทธ์
3.TTL คือ คิดใหม่ของเครื่องมือการสื่อสารการตลาด พัฒนามาจากไอเอ็มซี ได้กลายเป็นชื่อบริษัทน้องใหม่ ธรู เดอะไลน์ คอมมิวนิเคชั่นส์
นางสาวอรจิรา ดินแดง เลขที่ 52
1.ALT คือ การส่งเสริมการตลาดโดยผ่านการสื่อสารผ่านสื่อที่เข้าถึงกลุ่มผู้ฟังในวงกว้าง
ตอบลบ2.BTL คือ การใช้เงินพิเศษ นอกเหนือจากงบประมาณ
3.TTL คือ การทำประชาสัมพันธ์เพื่อสนับสนุนทางด้านการเงินขององค์กร การเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ หรือมีแผนฟื้นฟูใหม่
นางสาวผุสดี ผ่องศรี เลขที่ 22
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ1.ALT คือ การซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก
ตอบลบ2.BTL คือ การจัดกิจกรรมทางการตลาด
3.TTL คือ กระบวนการในการพัฒนาโปรแกรมการสื่อสาร ที่มุ่งโน้มน้าว และชักจูงกลุ่มเป้าหมาย ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้า ให้เกิดพฤติกรรมการซื้อและใช้สินค้า โดยกระบวนการเหล่านั้นมุ่งใช้เครื่องมือสื่อสารหลากหลายรูปแบบ
นางสาวเบญจมาศ หมาดสิทธิ์ เลขที่ 18
above the line การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสื่อพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่าไร เหมาะสำหรับสินค้าหรือ brand ที่ติดตลาดแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อสร้างbrand awareness ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวbrandของสินค้ามากขึ้น
ตอบลบbelow the line การโฆษณาสินค้าโดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เน้นกลุ่มลูกค้าเช่นการยืนแจกสินค้าตัวอย่างสบู่ล้างหน้าหน้ามหาวิทยาลัย แจกขนมตัวอย่างหน้าโรงเรียนระดับมัธยม การออกบู๊ทต่างๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายน้อย เป็นที่นิยมเวลาออกสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ทำให้brand เป็นที่รู้จักเพราะไม่เข้าสู่คนกลุ่มมาก
Through the Line เป็นรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่รวมทั้งที่ผ่านและไม่ผ่านสื่อมวลชนเข้าด้วย กัน เพื่อผนึกกำลังให้ผ่านอุปสรรคทั้งปวงที่กีดขวางการบริหารตราสินค้าได้อย่าง มีประสิทธิภาพ และเป็นแนวคิดที่ช่วยสร้างความ สัมพันธ์ระหว่างตราสินค้า และลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เกิดความคงทนและยืนยาวได้ โดยผ่านประสบการณ์ของกิจกรรมการสื่อสารการตลาดในรูปแบบต่างๆ ที่ถูกคัดสรรแล้วจนทำให้ทุกจุดสัมผัสรอบตัวที่รายล้อมลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย จะช่วยสร้างความทรงจำ ความสัมพันธ์ที่ดีต่อตราสินค้าทั้งสิ้น และมีการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง”
นาย ชนนภัทร ยอดอุดม กต.552 5510101205
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค
ตอบลบBelow the Line คือการสื่อสารสองทางกับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่ที่มีจำนวนและขนาดจำกัด อาทิ การจัดกิจกรรมพิเศษทางการตลาด , การส่งเสริมการขาย, การจัดโรดโชว์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM:Customer Relationship Management)
Through the line คือการผสานพลังใหม่เพื่อประสิทธิภาพ โดย เป็นแนวคิดใหม่ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยกระหว่าง Above the Line หรือการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (Mass Media) อย่างโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โรงภาพยนตร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ ส่วน Below the Line คือการใช้สื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน(Non Mass Media) แม้ว่าจะไม่มีการแบ่งไลน์ แต่การสื่อสารไปถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ยังเป็นเอกภาพที่ชัดเจน” \
นาย ณรงค์ยศ ดีเบา กต.552 5510101255
above the line การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสื่อพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่าไร เหมาะสำหรับสินค้าหรือ brand ที่ติดตลาดแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อสร้างbrand awareness ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวbrandของสินค้ามากขึ้น
ตอบลบbelow the line การโฆษณาสินค้าโดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เน้นกลุ่มลูกค้าเช่นการยืนแจกสินค้าตัวอย่างสบู่ล้างหน้าหน้ามหาวิทยาลัย แจกขนมตัวอย่างหน้าโรงเรียนระดับมัธยม การออกบู๊ทต่างๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายน้อย เป็นที่นิยมเวลาออกสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ทำให้brand เป็นที่รู้จักเพราะไม่เข้าสู่คนกลุ่มมาก
through the line เป็นแนวคิดใหม่ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยกระหว่าง Above the Line หรือการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (Mass Media) อย่างโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โรงภาพยนตร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ ส่วน Below the Line คือการใช้สื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน(Non Mass Media) แม้ว่าจะไม่มีการแบ่งไลน์ แต่การสื่อสารไปถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ยังเป็นเอกภาพที่ชัดเจน”
นาย หิรัญ ชัยสุวรรณ กต.552 5510101247
“Above the Line (ATL)” และ “Below the Line (BTL)” “การโฆษณาและการส่งเสริมการขาย”
ลบคำว่า “Above the Line (ATL)” นั้น หมายถึง สื่อโฆษณาต่างๆ ที่มีผลกระทบในวงกว้างต่อผู้บริโภค สามารถเข้าถึงผู้บริโภค ครัวเรือน ผู้สัญจรไป-มา หรือผู้ใช้บริการต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง เรียกว่า “มีอำนาจทะลุทะลวงสูง” อาทิเช่น โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร บิลบอร์ด เว็ปไซด์ เป็นต้น
สื่อต่างๆ เหล่านี้ มีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นจำนวนมากพร้อมๆกัน เรียกว่า อาจจะหลายสิบล้านคน เช่น การลงทุนโฆษณาในรายการโทรทัศน์ดีๆ ที่มีเรตติ้งสูงๆ แต่ก็อย่างว่า ค่าใช้จ่ายสำหรับการโฆษณาแบบนี้ อย่างไรก็ตาม การ “สร้างแบรนด์” “Above-the-Line Activity” เป็นสิ่งจำเป็นมาก ไม่มีไม่ได้ ดังนั้นประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่ “การเลือกซื้อสื่อให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มากที่สุด” เพื่อจะสร้าง “Impact” ให้ได้มากที่สุด เพราะการลงทุนครั้งนี้ ถ้าเรา “สร้างกระแส” ไม่ได้ งานนี้รับรอง “จ่ายเงินฟรี” ทุกการสื่อโฆษณาต้องวัดใจเหมือนกันหมด มีทั้งข้อดีและข้อเสียในการทำการตลาดแบบ “Above the Line (ATL)”
นส.ประภัสสิริย์ สกุลชิต กต.552 5510101220
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค Below the line กันก่อนดีกว่าครับ Below the line เป็นกลุ่มของเครื่องมือการสื่อสารการตลาด ที่นอกเหนือจากการโฆษณาผ่านสื่อสาธารณะ (Mass Media) โดย Below the line ประกอบด้วย กิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น การส่งเสริมการขาย, Telemarketing, Event Marketing, Sponsorship, Electronic Media, Direct Mail และอื่นๆ ที่เหลือที่ไม่ใช้การโฆษณาผ่านสื่อหลักนั่นละครับ ใช่ Below the line ทั้งหมด
ตอบลบโดยที่มาของคำว่า Below the line ก็เกิดจากใบแจ้งหนี้ของบริษัทโฆษณาที่เสนองบประมาณค่าใช้จ่ายในการสื่อสารการตลาดให้กับบริษัทลูกค้าที่ในส่วนแรก (above the line) จะแจ้งหนี้ค่าซื้อสื่อโฆษณาทางวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และ Mass Media อื่นๆ เป็นรายการๆ จากนั้นจะรวมยอดค่าสื่อทั้งหมดเป็นยอดรวมก่อน ซึ่งบริษัทโฆษณาจะคิดว่าคอมมิชชั่นในการให้บริการซื้อสื่อกับลูกค้า โดยตามสูตรมาตรฐานสากล คือ 17.65% ของมูลค่าสื่อ ซึ่งในบ้านเราอาจมีทั้งที่จ่ายตามสูตรนี้หรือต่ำกว่านี้ ยอดนี้เป็นรายได้ค่าบริการของบริษัทโฆษณา
Through-the-lin นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่างบีโลว์เดอะไลน์ และอะบัพว์เดอะไลน์ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า "อะบัพว์เดอะไลน์" และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน (non-mass media) ดังที่กล่าวถึงข้างต้นว่า "บีโลว์เดอะไลน์" นั่นเอง
นาย ณัฐพล เขียวย้อย กต.552 5510101208
Above the line(ATL) เป็นประเภทของการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆเช่นโทรทัศน์, โรงหนัง, วิทยุ, ป้าย, พิมพ์และเครื่องมือค้นหาเพื่อส่งเสริมแบรนด์ การใช้งานที่สำคัญ ได้แก่ โทรทัศน์และการโฆษณาทางวิทยุ, เว็บและการโฆษณาแบนเนอร์อินเทอร์เน็ต ประเภทของการสื่อสารนี้เป็นธรรมดาในธรรมชาติและถือว่าเป็นตัวตนให้กับลูกค้า มันแตกต่างจากการโฆษณาด้านล่างเส้นซึ่งเชื่อมั่นในกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ไม่เป็นทางการเช่น mail โดยตรงและสื่อสิ่งพิมพ์ (และมักจะเกี่ยวข้องกับกราฟิกเคลื่อนไหวไม่ได้)
ตอบลบBelow the line(BTL) เป็นการสื่อสารสองทางกับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่ ที่มีจำนวนและขนาดจำกัด เช่น การจัดกิจกรรมพิเศษทางการตลาด การส่งเสริมการขาย การจัดโรดโชว์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM : Customer Relationship Management) เป็นสิ่งจูงใจระยะสั้นส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่ผู้บริโภค กับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในทีมการตลาดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในงบประมาณที่ จำกัด ได้มีความต้องการที่จะหาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและค่าใช้จ่ายวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารกับตลาดเป้าหมาย นี้ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงจากสื่อปกติตามโฆษณา ในคำอื่น ๆ ที่ต่ำกว่าสายการส่งเสริมการขายเป็นแรงจูงใจที่เกิดขึ้นทันทีหรือล่าช้าที่จะซื้อแสดงออกในรูปของเงินสดหรือในรูปแบบและมีเพียงระยะสั้นหรือระยะเวลาชั่วคราว
Through the line (TTL) เป็นแนวคิดใหม่ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยกระหว่าง Above the Line หรือการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (Mass Media) อย่างโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โรงภาพยนตร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ ส่วน Below the Line คือการใช้สื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน(Non Mass Media) แม้ว่าจะไม่มีการแบ่งไลน์ แต่การสื่อสารไปถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ยังเป็นเอกภาพที่ชัดเจน” Through the line (TTL) เป็นรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่รวมทั้งที่ผ่านและไม่ผ่านสื่อมวลชนเข้าด้วยกัน เพื่อผนึกกำลังให้ผ่านอุปสรรคทั้งปวงที่กีดขวางการบริหารตราสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นแนวคิดที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตราสินค้า และลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เกิดความคงทนและยืนยาวได้ โดยผ่านประสบการณ์ของกิจกรรมการสื่อสารการตลาดในรูปแบบต่างๆ ที่ถูกคัดสรรแล้วจนทำให้ทุกจุดสัมผัสรอบตัวที่รายล้อมลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย จะช่วยสร้างความทรงจำ ความสัมพันธ์ที่ดีต่อตราสินค้าทั้งสิ้น และมีการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง”
นางสาวสิรีรัตน์ ชูชาติ กต.552 5510101244
1. ATL คือ การส่งเสริมการตลาดโดยผ่านการสื่อสารผ่านสื่อที่เข้าถึงผู้ฟังในวงกว้าง หรือเรียกว่า "การใช้สื่อสารมวลชน" เช่น Advertising and Sales Promotion.ข้อดีคือ เข้าถึงลูกค้าในวงกว้าง ข้อเสียคือ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ไม่เจาะจง
ตอบลบ2. BTL คือ การส่งเสริมการตลาดที่มุ่งเจาะเข้าหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เช่น PR Activities หรือ Direct Marketing ข้อดีคือ สามารถระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน ข้อเสียคือ ใช้ทรัพยากรทางด้านบุคคลสูงมาก
3. TTL คือ การส่งเสริมการตลาดที่รวมทั้งการสื่อสารผ่านสื่อในวงกว้างกับการสื่อสารที่เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเข้าด้วยกัน โดยเน้นการสื่อสารไปยังผู้บริโภคอย่างเป็นเอกภ่าพชัดเจน
นายอภินันท์ พัฒนศิลป์ กต.552 เลขที่ 51
“Above the Line (ATL)” และ “Below the Line (BTL)” “การโฆษณาและการส่งเสริมการขาย”
ตอบลบคำว่า “Above the Line (ATL)” นั้น หมายถึง สื่อโฆษณาต่างๆ ที่มีผลกระทบในวงกว้างต่อผู้บริโภค สามารถเข้าถึงผู้บริโภค ครัวเรือน ผู้สัญจรไป-มา หรือผู้ใช้บริการต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง เรียกว่า “มีอำนาจทะลุทะลวงสูง” อาทิเช่น โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร บิลบอร์ด เว็ปไซด์ เป็นต้น
สื่อต่างๆ เหล่านี้ มีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นจำนวนมากพร้อมๆกัน เรียกว่า อาจจะหลายสิบล้านคน เช่น การลงทุนโฆษณาในรายการโทรทัศน์ดีๆ ที่มีเรตติ้งสูงๆ แต่ก็อย่างว่า ค่าใช้จ่ายสำหรับการโฆษณาแบบนี้ อย่างไรก็ตาม การ “สร้างแบรนด์” “Above-the-Line Activity” เป็นสิ่งจำเป็นมาก ไม่มีไม่ได้ ดังนั้นประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่ “การเลือกซื้อสื่อให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มากที่สุด” เพื่อจะสร้าง “Impact” ให้ได้มากที่สุด เพราะการลงทุนครั้งนี้ ถ้าเรา “สร้างกระแส” ไม่ได้ งานนี้รับรอง “จ่ายเงินฟรี” ทุกการสื่อโฆษณาต้องวัดใจเหมือนกันหมด มีทั้งข้อดีและข้อเสียในการทำการตลาดแบบ “Above the Line (ATL)”
นางสาวประภัสสิริย์ สกุลชิต กต.552 5510101220
สำหรับ “Below-the-Line Activity (BTL)” นั้น เป็นอีกกิจกรรมทางการตลาด อีกประเภทหนึ่ง ที่จำเป็นต้องกระทำ “ควบคู่” ไปกับกิจกรรม “Above-the-Line Activity” เพราะกิจกรรมแรกเพื่อการ “สร้างแบรนด์” แต่กิจกรรมต่อไปนี้ จะเป็นกิจกรรมเพื่อการ “สร้างยอดขาย” โดยตรง
ตอบลบโดยที่ตัวเจ้าของธุรกิจเองนั้นต้องจัดสรร “งบ”เองและ จัดสรรอย่างไร ระหว่าง “งบกิจกรรมเพื่อการสร้างแบรนด์” กับ “งบกิจกรรมเพื่อการสร้างยอดขาย”
สมัยก่อนหลายบริษัทนิยม “จ่ายเงินเพื่อกิจกรรมสร้างแบรนด์” เมื่อเปรียบเทียบกับ “จ่ายเงินเพื่อกิจกรรมสร้างยอดขาย” ในอัตราประมาณ 70:30 หลายปีต่อมาอัตราส่วนนี้เริ่มเปลี่ยนเป็น 50:50 และในระยะหลังๆ ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง อัตราส่วนดังกล่าวของหลายๆ บริษัทเริ่มกลายเป็น 30:70
เหตุผลเดียว เงินที่จ่ายไปเพื่อกิจกรรมสร้างแบรนด์ (Above-the-Line Activity” นั้น วัดผลออกมาเป็น “ตัวเลขยอดขาย” ได้ยากกว่าเงินที่จ่ายเพื่อกิจกรรมสร้างยอดขาย คือ ไม่เห็นผลชัดเจนในระยะสั้น ต้องรอนานกว่าในระยะยาว และที่สำคัญคือ ไม่การันตีความสำเร็จ ไม่เหมือนกับ เงินที่จ่ายเพื่อกิจกรรมสร้างยอดขาย หรือที่เรียกว่า “ Below-the-Line Activity” ซึ่งวัดผลเป็น “ตัวเลขขาย” ได้ง่ายกว่าในระยะสั้น เห็นกันจะๆ และจ่ายถูกกว่ากันมากกิจกรรมเพื่อสร้างยอดขายดังกล่าวนี้ ส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ที่สร้างขึ้น “ณ จุดขาย” เช่น ภายในห้างสรรพสินค้า ดิสเคานท์สโตร์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือภายในร้านอาหาร และตรงนี้ก็รวมถึง “การออกร้าน (Booth)” ในงานต่างๆ ด้วยกิจกรรมเหล่านี้ ถือว่าเป็น “ Event Marketing” ที่สามารถวางแผนล่วงหน้าได้หลายๆ เดือนหรือเป็นปี
ตัวอย่างเช่น
บาสกิ้น-ร้อบบิ้นส์ ให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมทางการตลาด โดยใช้กลยุทธ์บีโลว์ เดอะ ไลน์ (Below The Line Strategy) ซึ่งไม่เน้นการใช้สื่อ แต่มุ่งสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของสมาชิก บาสกิ้น-ร้อบบิ้นส์ และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการดูภาพยนตร์ ฟังวิทยุ ชมคอนเสิร์ต และอ่านหนังสือ อาทิเช่น การจัดโปรโมชั่น และกิจกรรมร่วมกับภาพยนตร์ การจัดกิจกรรมร่วมกับรายการวิทยุ การทำโปรโมชั่นร่วมกับสำนักพิมพ์
ทางที่ดีควรทำ “ควบคู่” กัน เพราะกิจกรรมทั้งสองประเภทนี้จะเสริมสร้าง “พลังทางการตลาด” ซึ่งกันและกันจึงเป็นที่มาของคำว่า“ (Through-the-line) ”
นางสาวประภัสสิริย์ สกุลชิต กต.552 5510101220
ATL คือประเภทของการโฆษณาผ่าน สื่อ ต่างๆเช่น โทรทัศน์ , โรงหนัง , วิทยุ , พิมพ์ และ ออกจากบ้าน เพื่อส่งเสริม แบรนด์ หรือนำเสนอที่เฉพาะเจาะจงประเภทของการสื่อสารนี้เป็นธรรมดาในธรรมชาติและถือว่าเป็นตัวตนให้กับลูกค้า โดยจะนำเสนอด้วยการโฆษณาหรือบริการผ่านสื่อต่างๆ โฆษณามักจะมุ่งเน้นไปที่วิธีการโดยตรงของ การสื่อสาร จดหมายที่ตรงที่สุดโดยทั่วไปและการใช้งานที่สำคัญ ได้แก่ โทรทัศน์และการโฆษณาทางวิทยุ, เว็บและการโฆษณาแบนเนอร์อินเทอร์เน็ต ประเภทของการสื่อสารนี้เป็นธรรมดาในธรรมชาติและถือว่าเป็นตัวตนให้กับลูกค้า มันแตกต่างจากการโฆษณาด้านล่างเส้นซึ่งเชื่อมั่นในกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ไม่เป็นทางการเช่น mail โดยตรงและสื่อสิ่งพิมพ์ (และมักจะเกี่ยวข้องกับกราฟิกเคลื่อนไหวไม่ได้)
ตอบลบBTL เป็นแรงจูงใจที่เกิดขึ้นทันทีหรือล่าช้าที่จะซื้อแสดงออกในรูปของเงินสดหรือในรูปแบบและมีระยะเวลาสั้น ๆ มันมีประสิทธิภาพและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพสำหรับการกำหนดเป้าหมายกลุ่มที่ จำกัด และเฉพาะเจาะจง เช่นการจัดกิจกรรมพิเศษทางการตลาด การส่งเสริมการขาย เป็นสิ่งจูงใจระยะสั้นส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่ผู้บริโภค กับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในทีมการตลาดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในงบประมาณที่ จำกัด ได้มีความต้องการที่จะหาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและค่าใช้จ่ายวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารกับตลาดเป้าหมาย
TTL เป็นแนวคิดใหม่ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยกระหว่าง Above the Line หรือการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (Mass Media) อย่างโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โรงภาพยนตร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ ส่วน Below the Line คือการใช้สื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน(Non Mass Media) แม้ว่าจะไม่มีการแบ่งไลน์ แต่การสื่อสารไปถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ยังเป็นเอกภาพที่ชัดเจน Through the line (TTL) เป็นรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่รวมทั้งที่ผ่านและไม่ผ่านสื่อมวลชนเข้าด้วยกัน และเป็นแนวคิดที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตราสินค้า และลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เกิดความคงทนและยืนยาวได้ โดยผ่านประสบการณ์ของกิจกรรมการสื่อสารการตลาดในรูปแบบต่างๆ ที่ถูกคัดสรรแล้วจนทำให้ทุกจุดสัมผัสรอบตัวที่รายล้อมลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย จะช่วยสร้างความทรงจำ ความสัมพันธ์ที่ดีต่อตราสินค้าทั้งสิ้น และมีการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง
นางสาว พีรัฐา กรสวัสดิ์ กต.552 5510101228
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค
ตอบลบBelow the Line เป็นการสื่อสารสองทางกับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่ที่มีจำนวนและขนาดจำกัด อาทิ การจัดกิจกรรมพิเศษทางการตลาด , การส่งเสริมการขาย, การจัดโรดโชว์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM:Customer Relationship Management)
Through the Line นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่าง Below the Line และ Above the line ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า Above the line และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน
นางสาว อรัญทิตา สิทธิชัย กต.552 5510101253
“ (Through-the-line) ”
ตอบลบการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่างบีโลว์เดอะไลน์ และอะบัพว์เดอะไลน์ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้ง หลักการและแนวคิดการสื่อสารการตลาดสมัยใหม่นั้น ได้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ตลอดจนสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารตราสินค้า จึงส่งผลให้มีแนวคิดการสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ อย่างธรูเดอะไลน์เกิดขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางและกรอบแนวคิดในการกำหนดกลยุทธ์สำหรับการต่อสู้กับคู่ แข่งขันต่อไป เราอาจจะเรียก ธรูเดอะไลน์ว่าโนไลน์(no-line) ซีโรไลน์(zero-line) หรือฟอร์เกทเดอะไลน์(forget-the-line) ก็ได้ธรูเดอะไลน์เป็นคำที่มีความหมายที่ลึกซึ้งกว่าคำอื่นๆ เนื่องจากคำว่า "ธรู (Through)" นั้นหมายถึงทะลุผ่านตลอด รวมเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ต้นจนจบ เสร็จสิ้นสมบรูณ์ ต่อเนื่องปราศจากสิ่งกีดขวางและที่สำคัญยังหมายถึงความสำเร็จอีกด้วย ดังนั้น ธรูเดอะไลน์จึงเป็นรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่รวมทั้งที่ผ่านและไม่ผ่านสื่อ มวลชนเข้าด้วยกัน เพื่อผนึกกำลังให้ผ่านพ้นอุปสรรคทั้งปวงที่กีดขวางการบริหารตราสินค้าให้ เกิดความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นส.ประภัสสิริย์ สกุลชิต 5510101220
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค
ตอบลบBelow the Line เป็นการสื่อสารสองทางกับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่ที่มีจำนวนและขนาดจำกัด อาทิ การจัดกิจกรรมพิเศษทางการตลาด , การส่งเสริมการขาย, การจัดโรดโชว์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM:Customer Relationship Management)
Through the line คือ การส่งเสริมการตลาดที่รวมทั้งการสื่อสารผ่านสื่อในวงกว้างกับการสื่อสารที่เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเข้าด้วยกัน โดยเน้นการสื่อสารไปยังผู้บริโภคอย่างเป็นเอกภ่าพชัดเจน
นางสาวพัทธมน แซ่เก้า เลขที่ 26 กต552
ATL คือประเภทของการโฆษณาผ่าน สื่อ ต่างๆเช่น โทรทัศน์ , โรงหนัง , วิทยุ , พิมพ์ และ ออกจากบ้าน เพื่อส่งเสริม แบรนด์ หรือนำเสนอที่เฉพาะเจาะจงประเภทของการสื่อสารนี้เป็นธรรมดาในธรรมชาติและถือว่าเป็นตัวตนให้กับลูกค้า โดยจะนำเสนอด้วยการโฆษณาหรือบริการผ่านสื่อต่างๆ โฆษณามักจะมุ่งเน้นไปที่วิธีการโดยตรงของ การสื่อสาร จดหมายที่ตรงที่สุดโดยทั่วไปและการใช้งานที่สำคัญ ได้แก่ โทรทัศน์และการโฆษณาทางวิทยุ, เว็บและการโฆษณาแบนเนอร์อินเทอร์เน็ต ประเภทของการสื่อสารนี้เป็นธรรมดาในธรรมชาติและถือว่าเป็นตัวตนให้กับลูกค้า มันแตกต่างจากการโฆษณาด้านล่างเส้นซึ่งเชื่อมั่นในกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ไม่เป็นทางการเช่น mail โดยตรงและสื่อสิ่งพิมพ์ (และมักจะเกี่ยวข้องกับกราฟิกเคลื่อนไหวไม่ได้)
ตอบลบBTL คือ การส่งเสริมการตลาดที่มุ่งเจาะเข้าหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เช่น PR Activities หรือ Direct Marketing ข้อดีคือ สามารถระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน ข้อเสียคือ ใช้ทรัพยากรทางด้านบุคคลสูงมาก
“ (Through-the-line) ”
การตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่างบีโลว์เดอะไลน์ และอะบัพว์เดอะไลน์ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้ง หลักการและแนวคิดการสื่อสารการตลาดสมัยใหม่นั้น ได้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ตลอดจนสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารตราสินค้า จึงส่งผลให้มีแนวคิดการสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ อย่างธรูเดอะไลน์เกิดขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางและกรอบแนวคิดในการกำหนดกลยุทธ์สำหรับการต่อสู้กับคู่ แข่งขันต่อไป เราอาจจะเรียก ธรูเดอะไลน์ว่าโนไลน์(no-line) ซีโรไลน์(zero-line) หรือฟอร์เกทเดอะไลน์(forget-the-line) ก็ได้ธรูเดอะไลน์เป็นคำที่มีความหมายที่ลึกซึ้งกว่าคำอื่นๆ เนื่องจากคำว่า "ธรู (Through)" นั้นหมายถึงทะลุผ่านตลอด รวมเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ต้นจนจบ เสร็จสิ้นสมบรูณ์ ต่อเนื่องปราศจากสิ่งกีดขวางและที่สำคัญยังหมายถึงความสำเร็จอีกด้วย ดังนั้น ธรูเดอะไลน์จึงเป็นรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่รวมทั้งที่ผ่านและไม่ผ่านสื่อ มวลชนเข้าด้วยกัน เพื่อผนึกกำลังให้ผ่านพ้นอุปสรรคทั้งปวงที่กีดขวางการบริหารตราสินค้าให้ เกิดความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นางสาววาสนา รักพงษ์ เลขที่ 38 กต 552
above the line การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสื่อพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่าไร เหมาะสำหรับสินค้าหรือ brand ที่ติดตลาดแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อสร้างbrand awareness ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวbrandของสินค้ามากขึ้น
ตอบลบBelow the line(BTL) เป็นการสื่อสารสองทางกับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่ ที่มีจำนวนและขนาดจำกัด เช่น การจัดกิจกรรมพิเศษทางการตลาด การส่งเสริมการขาย การจัดโรดโชว์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM : Customer Relationship Management) เป็นสิ่งจูงใจระยะสั้นส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่ผู้บริโภค กับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในทีมการตลาดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในงบประมาณที่ จำกัด ได้มีความต้องการที่จะหาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและค่าใช้จ่ายวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารกับตลาดเป้าหมาย นี้ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงจากสื่อปกติตามโฆษณา ในคำอื่น ๆ ที่ต่ำกว่าสายการส่งเสริมการขายเป็นแรงจูงใจที่เกิดขึ้นทันทีหรือล่าช้าที่จะซื้อแสดงออกในรูปของเงินสดหรือในรูปแบบและมีเพียงระยะสั้นหรือระยะเวลาชั่วคราว
Through the Line นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่าง Below the Line และ Above the line ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า Above the line และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน
นางสาว จริยา หลิ้มชู เลขที่ 1 กต 552
above the line การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสื่อพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่าไร เหมาะสำหรับสินค้าหรือ brand ที่ติดตลาดแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อสร้างbrand awareness ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวbrandของสินค้ามากขึ้น
ตอบลบBelow the Line เป็นการสื่อสารสองทางกับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่ที่มีจำนวนและขนาดจำกัด อาทิ การจัดกิจกรรมพิเศษทางการตลาด , การส่งเสริมการขาย, การจัดโรดโชว์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM:Customer Relationship Management)
Through-the-lin นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่างบีโลว์เดอะไลน์ และอะบัพว์เดอะไลน์ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า "อะบัพว์เดอะไลน์" และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน (non-mass media)
นางสาวภิชารัสมิ์ แซ่ตัน เลขที่ 31 กต 552
(ATL) - การดำเนินงานและกลยุทธ์การตลาดที่นำมาใช้ในสื่อแบบดั้งเดิม แหล่งที่มาหลักของการโฆษณา ATL คือโทรทัศน์วิทยุกดโปสเตอร์กลางแจ้ง (โฆษณากลางแจ้ง), (การโฆษณาภายใน) ในร่ม, Internet, ฯลฯ
ตอบลบแหล่งที่มาหลักของการโฆษณา ATL: โทรทัศน์ วิทยุ กด (โฆษณากลางแจ้ง) กลางแจ้ง
(โฆษณาภายใน) ในร่ม อินเทอร์เน็ต
(BTL) เครื่องมือทางการตลาดกลุ่มหนึ่ง ที่มีผู้กล่าวถึงบ่อยครั้งและมีแนวโน้มว่าจะสำคัญและถูกนำมาใช้มากขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็คือ "เครื่องมือในการส่งเสริมการตลาด"ที่เรียกว่า “Below-the-Line” หรือการใช้ “Below-the-Line Campaign” ที่มุ่งไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยไม่ผ่านสื่อโฆษณา
(TTL) เป็นแนวคิดใหม่ที่มุ่งเน้นการสื่อสารไปยังผู้บริโภคและให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยกระหว่าง Above the Line หรือการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (Mass Media) อย่างโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โรงภาพยนตร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ ส่วน Below the Line คือการใช้สื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน(Non Mass Media) แม้ว่าจะไม่มีการแบ่งไลน์ แต่การสื่อสารไปถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ยังเป็นเอกภาพที่ชัดเจน
นางสาว วราพร นันทะพันธุ์ 5510101237 กต.552
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค Below the line กันก่อนดีกว่าครับ Below the line เป็นกลุ่มของเครื่องมือการสื่อสารการตลาด ที่นอกเหนือจากการโฆษณาผ่านสื่อสาธารณะ (Mass Media) โดย Below the line ประกอบด้วย กิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น การส่งเสริมการขาย, Telemarketing, Event Marketing, Sponsorship, Electronic Media, Direct Mail และอื่นๆ ที่เหลือที่ไม่ใช้การโฆษณาผ่านสื่อหลักนั่นละครับ ใช่ Below the line ทั้งหมด
ตอบลบThrough the Line นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่าง Below the Line และ Above the line ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า Above the line และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน
Through-the-lin นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่างบีโลว์เดอะไลน์ และอะบัพว์เดอะไลน์ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า "อะบัพว์เดอะไลน์" และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน (non-mass media)
นางสาวพัฒนาวรรณ ตู้สกุล เลขที่ 25 กต552
( ATL) ABOVE THE LINK
ตอบลบ1) ATL ก็น่าจะเป็นการส่งเสริมการตลาดโดยผ่านการสื่อสารผ่านสื่อที่เข้าถึงกลุ่มผู้ฟังในวงกว้าง เช่น Advertising and Sales promotion. BTL น่าจะเป็นการส่งเสริมการตลาด ที่มุ่งเจาะเข้าหากลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เช่น PR Activities หรือ Direct Marketing
ในอดีตที่การส่งเสริมการตลาดยังไม่พัฒนานัก เรามักเน้นไปที่ ATL เพราะเข้าถึงคนได้มาก แต่ปัจจุบัน ตลาดเป็น segment แยกย่อยขึ้น BTL จึงเริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ
สำหรับผม เพื่อให้จำง่ายไม่สับสน ผมจึงเข้าใจว่า Above the line คือการทำการตลาดอย่างเปิดเผย หรือ บนดิน ผ่านสื่อวงกว้างที่ทุกคนสามารถเสพได้หมดทั้งลูกค้า คู่แข่ง หรือ รัฐบาล
(BTL) BELOW THE LINE
2) Below the line คือ การส่งเสริมการตลาดแบบใต้ดิน เราส่งสารไปให้เฉพาะคนที่เราอยากให้เขารับ รู้กันเฉพาะคนที่เราควบคุมให้ทราบเท่านั้นครับ
(TTL) THROLGH THE LINE
3) ภาวะที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง ผู้บริโภคไม่มีความมั่นใจในสถานการณ์และชะลอการใช้จ่าย การแข่งขันมีสูง กลยุทธ์ที่นักการตลาดเลือกใช้กันมาก คือกิจกรรมทางการตลาดที่สามารถเห็นผลหรือวัดผลได้ในระยะสั้น กิจกรรมที่เข้าถึงตัวลูกค้าเป้าหมาย สร้างความสนใจและกระตุ้นให้ตอบสนองทันที เหมือนนักมวยที่รุกกระชั้นถึงขั้น
นาย ธนกร มาศมหาศาลกต 552. เลขที่ 10.
( ATL) ABOVE THE LINK
ตอบลบ1) above the line การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสื่อพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่าไร เหมาะสำหรับสินค้าหรือ brand ที่ติดตลาดแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อสร้างbrand awareness ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวbrandของสินค้ามากขึ้น
(BTL) BELOW THE LINE
2) below the line การโฆษณาสินค้าโดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เน้นกลุ่มลูกค้าเช่นการยืนแจกสินค้าตัวอย่างสบู่ล้างหน้าหน้ามหาวิทยาลัย แจกขนมตัวอย่างหน้าโรงเรียนระดับมัธยม การออกบู๊ทต่างๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายน้อย เป็นที่นิยมเวลาออกสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ทำให้brand เป็นที่รู้จักเพราะไม่เข้าสู่คนกลุ่มมาก
(TTL) THROLGH THE LINE)
3) การส่งเสริมการตลาดโดยผ่านการสื่อสารผ่านสื่อที่เข้าถึงกลุ่มผู้ฟังในวงกว้าง เช่น Advertising and Sales promotion. BTL น่าจะเป็นการส่งเสริมการตลาด ที่มุ่งเจาะเข้าหากลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เช่น PR Activities หรือ Direct Marketing
นางสาว อนุสรา การะเกตุ กต552. เลขที่ 49
1.ALT คือ เป็นการซื้อและการทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อสร้างรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้าง ภายในเวลาระยะสั้น ๆอย่างรวดเร็ว
ตอบลบ2.BTL คือ เป็นการสื่อสารสองทางกับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่จำนวนมากและขนาดจำกัด
3.TTL คือ เป็นการระบุกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
สามารถวัดผลเร็วยอดขาย
สามารถกระตุ้นการปิดการขายให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ทันที
นายรณกฤต สิทธาจารย์ เลขที่34 กต552
ATL คือประเภทของการโฆษณาผ่าน สื่อ ต่างๆเช่น โทรทัศน์ , โรงหนัง , วิทยุ , พิมพ์ และ ออกจากบ้าน เพื่อส่งเสริม แบรนด์ หรือนำเสนอที่เฉพาะเจาะจงประเภทของการสื่อสารนี้เป็นธรรมดาในธรรมชาติและถือว่าเป็นตัวตนให้กับลูกค้า โดยจะนำเสนอด้วยการโฆษณาหรือบริการผ่านสื่อต่างๆ โฆษณามักจะมุ่งเน้นไปที่วิธีการโดยตรงของ การสื่อสาร จดหมายที่ตรงที่สุดโดยทั่วไปและการใช้งานที่สำคัญ ได้แก่ โทรทัศน์และการโฆษณาทางวิทยุ, เว็บและการโฆษณาแบนเนอร์อินเทอร์เน็ต ประเภทของการสื่อสารนี้เป็นธรรมดาในธรรมชาติและถือว่าเป็นตัวตนให้กับลูกค้า มันแตกต่างจากการโฆษณาด้านล่างเส้นซึ่งเชื่อมั่นในกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ไม่เป็นทางการเช่น mail โดยตรงและสื่อสิ่งพิมพ์ (และมักจะเกี่ยวข้องกับกราฟิกเคลื่อนไหวไม่ได้)
ตอบลบBTL คือ การส่งเสริมการตลาดที่มุ่งเจาะเข้าหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เช่น PR Activities หรือ Direct Marketing ข้อดีคือ สามารถระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน ข้อเสียคือ ใช้ทรัพยากรทางด้านบุคคลสูงมาก
“ (Through-the-line) ”
การตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่างบีโลว์เดอะไลน์ และอะบัพว์เดอะไลน์ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้ง หลักการและแนวคิดการสื่อสารการตลาดสมัยใหม่นั้น ได้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ตลอดจนสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารตราสินค้า จึงส่งผลให้มีแนวคิดการสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ อย่างธรูเดอะไลน์เกิดขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางและกรอบแนวคิดในการกำหนดกลยุทธ์สำหรับการต่อสู้กับคู่ แข่งขันต่อไป เราอาจจะเรียก ธรูเดอะไลน์ว่าโนไลน์(no-line) ซีโรไลน์(zero-line) หรือฟอร์เกทเดอะไลน์(forget-the-line) ก็ได้ธรูเดอะไลน์เป็นคำที่มีความหมายที่ลึกซึ้งกว่าคำอื่นๆ เนื่องจากคำว่า "ธรู (Through)" นั้นหมายถึงทะลุผ่านตลอด รวมเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ต้นจนจบ เสร็จสิ้นสมบรูณ์ ต่อเนื่องปราศจากสิ่งกีดขวางและที่สำคัญยังหมายถึงความสำเร็จอีกด้วย ดังนั้น ธรูเดอะไลน์จึงเป็นรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่รวมทั้งที่ผ่านและไม่ผ่านสื่อ มวลชนเข้าด้วยกัน เพื่อผนึกกำลังให้ผ่านพ้นอุปสรรคทั้งปวงที่กีดขวางการบริหารตราสินค้าให้ เกิดความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายชนพ แสงสกุล เลขที่6 กต552
above the line การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสื่อพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่าไร เหมาะสำหรับสินค้าหรือ brand ที่ติดตลาดแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อสร้างbrand awareness ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวbrandของสินค้ามากขึ้น
ตอบลบbelow the line การโฆษณาสินค้าโดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เน้นกลุ่มลูกค้าเช่นการยืนแจกสินค้าตัวอย่างสบู่ล้างหน้าหน้ามหาวิทยาลัย แจกขนมตัวอย่างหน้าโรงเรียนระดับมัธยม การออกบู๊ทต่างๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายน้อย เป็นที่นิยมเวลาออกสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ทำให้brand เป็นที่รู้จักเพราะไม่เข้าสู่คนกลุ่มมาก
through the line เป็นแนวคิดใหม่ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยกระหว่าง Above the Line หรือการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (Mass Media) อย่างโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โรงภาพยนตร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ ส่วน Below the Line คือการใช้สื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน(Non Mass Media) แม้ว่าจะไม่มีการแบ่งไลน์ แต่การสื่อสารไปถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ยังเป็นเอกภาพที่ชัดเจน”
นายจักรี พงษ์ทิพพิทักษ์ เลขที่2 กต552
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค Below the line กันก่อนดีกว่าครับ Below the line เป็นกลุ่มของเครื่องมือการสื่อสารการตลาด ที่นอกเหนือจากการโฆษณาผ่านสื่อสาธารณะ (Mass Media) โดย Below the line ประกอบด้วย กิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น การส่งเสริมการขาย, Telemarketing, Event Marketing, Sponsorship, Electronic Media, Direct Mail และอื่นๆ ที่เหลือที่ไม่ใช้การโฆษณาผ่านสื่อหลักนั่นละครับ ใช่ Below the line ทั้งหมด
ตอบลบโดยที่มาของคำว่า Below the line ก็เกิดจากใบแจ้งหนี้ของบริษัทโฆษณาที่เสนองบประมาณค่าใช้จ่ายในการสื่อสารการตลาดให้กับบริษัทลูกค้าที่ในส่วนแรก (above the line) จะแจ้งหนี้ค่าซื้อสื่อโฆษณาทางวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และ Mass Media อื่นๆ เป็นรายการๆ จากนั้นจะรวมยอดค่าสื่อทั้งหมดเป็นยอดรวมก่อน ซึ่งบริษัทโฆษณาจะคิดว่าคอมมิชชั่นในการให้บริการซื้อสื่อกับลูกค้า โดยตามสูตรมาตรฐานสากล คือ 17.65% ของมูลค่าสื่อ ซึ่งในบ้านเราอาจมีทั้งที่จ่ายตามสูตรนี้หรือต่ำกว่านี้ ยอดนี้เป็นรายได้ค่าบริการของบริษัทโฆษณา
Through-the-lin นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่างบีโลว์เดอะไลน์ และอะบัพว์เดอะไลน์ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า "อะบัพว์เดอะไลน์" และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน (non-mass media) ดังที่กล่าวถึงข้างต้นว่า "บีโลว์เดอะไลน์" นั่นเอง
นางสาวอภิญา บุญนำ เลขที่50 กต552
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค
ตอบลบBelow the Line เป็นการสื่อสารสองทางกับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่ที่มีจำนวนและขนาดจำกัด อาทิ การจัดกิจกรรมพิเศษทางการตลาด , การส่งเสริมการขาย, การจัดโรดโชว์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM:Customer Relationship Management)
Through the Line นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่าง Below the Line และ Above the line ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า Above the line และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน
นางสาวเจนรัตน์ หุ่นย้อง เลขที่4 กต552
( ATL) ABOVE THE LINK
ตอบลบ1) above the line การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสื่อพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่าไร เหมาะสำหรับสินค้าหรือ brand ที่ติดตลาดแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อสร้างbrand awareness ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวbrandของสินค้ามากขึ้น
(BTL) BELOW THE LINE
2) below the line การโฆษณาสินค้าโดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เน้นกลุ่มลูกค้าเช่นการยืนแจกสินค้าตัวอย่างสบู่ล้างหน้าหน้ามหาวิทยาลัย แจกขนมตัวอย่างหน้าโรงเรียนระดับมัธยม การออกบู๊ทต่างๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายน้อย เป็นที่นิยมเวลาออกสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ทำให้brand เป็นที่รู้จักเพราะไม่เข้าสู่คนกลุ่มมาก
(TTL) THROLGH THE LINE)
3) การส่งเสริมการตลาดโดยผ่านการสื่อสารผ่านสื่อที่เข้าถึงกลุ่มผู้ฟังในวงกว้าง เช่น Advertising and Sales promotion. BTL น่าจะเป็นการส่งเสริมการตลาด ที่มุ่งเจาะเข้าหากลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เช่น PR Activities หรือ Direct Marketing
นายโยธิน พิมพานัส เลขที่33 กต552
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค Below the line กันก่อนดีกว่าครับ Below the line เป็นกลุ่มของเครื่องมือการสื่อสารการตลาด ที่นอกเหนือจากการโฆษณาผ่านสื่อสาธารณะ (Mass Media) โดย Below the line ประกอบด้วย กิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น การส่งเสริมการขาย, Telemarketing, Event Marketing, Sponsorship, Electronic Media, Direct Mail และอื่นๆ ที่เหลือที่ไม่ใช้การโฆษณาผ่านสื่อหลักนั่นละครับ ใช่ Below the line ทั้งหมด
ตอบลบThrough the Line นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่าง Below the Line และ Above the line ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า Above the line และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน
Through-the-lin นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่างบีโลว์เดอะไลน์ และอะบัพว์เดอะไลน์ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า "อะบัพว์เดอะไลน์" และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน (non-mass media)
นางสาวรัชดาพร พูดงาม เลขที่35 กต552
above the line การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสื่อพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่าไร เหมาะสำหรับสินค้าหรือ brand ที่ติดตลาดแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อสร้างbrand awareness ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวbrandของสินค้ามากขึ้น
ตอบลบBelow the line(BTL) เป็นการสื่อสารสองทางกับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่ ที่มีจำนวนและขนาดจำกัด เช่น การจัดกิจกรรมพิเศษทางการตลาด การส่งเสริมการขาย การจัดโรดโชว์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM : Customer Relationship Management) เป็นสิ่งจูงใจระยะสั้นส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่ผู้บริโภค กับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในทีมการตลาดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในงบประมาณที่ จำกัด ได้มีความต้องการที่จะหาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและค่าใช้จ่ายวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารกับตลาดเป้าหมาย นี้ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงจากสื่อปกติตามโฆษณา ในคำอื่น ๆ ที่ต่ำกว่าสายการส่งเสริมการขายเป็นแรงจูงใจที่เกิดขึ้นทันทีหรือล่าช้าที่จะซื้อแสดงออกในรูปของเงินสดหรือในรูปแบบและมีเพียงระยะสั้นหรือระยะเวลาชั่วคราว
Through the Line นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่าง Below the Line และ Above the line ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า Above the line และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน
นางสาวอังคณา มาลาวัยจันทร์ เลขที่54 กต552
Above the line(ATL) เป็นประเภทของการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆเช่นโทรทัศน์, โรงหนัง, วิทยุ, ป้าย, พิมพ์และเครื่องมือค้นหาเพื่อส่งเสริมแบรนด์ การใช้งานที่สำคัญ ได้แก่ โทรทัศน์และการโฆษณาทางวิทยุ, เว็บและการโฆษณาแบนเนอร์อินเทอร์เน็ต ประเภทของการสื่อสารนี้เป็นธรรมดาในธรรมชาติและถือว่าเป็นตัวตนให้กับลูกค้า มันแตกต่างจากการโฆษณาด้านล่างเส้นซึ่งเชื่อมั่นในกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ไม่เป็นทางการเช่น mail โดยตรงและสื่อสิ่งพิมพ์ (และมักจะเกี่ยวข้องกับกราฟิกเคลื่อนไหวไม่ได้)
ตอบลบBelow the line(BTL) เป็นการสื่อสารสองทางกับผู้บริโภคในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่ ที่มีจำนวนและขนาดจำกัด เช่น การจัดกิจกรรมพิเศษทางการตลาด การส่งเสริมการขาย การจัดโรดโชว์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM : Customer Relationship Management) เป็นสิ่งจูงใจระยะสั้นส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่ผู้บริโภค กับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในทีมการตลาดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในงบประมาณที่ จำกัด ได้มีความต้องการที่จะหาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและค่าใช้จ่ายวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารกับตลาดเป้าหมาย นี้ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงจากสื่อปกติตามโฆษณา ในคำอื่น ๆ ที่ต่ำกว่าสายการส่งเสริมการขายเป็นแรงจูงใจที่เกิดขึ้นทันทีหรือล่าช้าที่จะซื้อแสดงออกในรูปของเงินสดหรือในรูปแบบและมีเพียงระยะสั้นหรือระยะเวลาชั่วคราว
Through the line (TTL) เป็นแนวคิดใหม่ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยกระหว่าง Above the Line หรือการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (Mass Media) อย่างโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โรงภาพยนตร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ ส่วน Below the Line คือการใช้สื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน(Non Mass Media) แม้ว่าจะไม่มีการแบ่งไลน์ แต่การสื่อสารไปถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ยังเป็นเอกภาพที่ชัดเจน” Through the line (TTL) เป็นรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่รวมทั้งที่ผ่านและไม่ผ่านสื่อมวลชนเข้าด้วยกัน เพื่อผนึกกำลังให้ผ่านอุปสรรคทั้งปวงที่กีดขวางการบริหารตราสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นแนวคิดที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตราสินค้า และลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เกิดความคงทนและยืนยาวได้ โดยผ่านประสบการณ์ของกิจกรรมการสื่อสารการตลาดในรูปแบบต่างๆ ที่ถูกคัดสรรแล้วจนทำให้ทุกจุดสัมผัสรอบตัวที่รายล้อมลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย จะช่วยสร้างความทรงจำ ความสัมพันธ์ที่ดีต่อตราสินค้าทั้งสิ้น และมีการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง”
นางสาวนุชรินทร์ อินโต เลขที่16 กต552
Above the line คือการซื้อและทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าแก่ผู้บริโภคในวงกว้างภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็ว โดยใช้โฆษณาแนะนำสินค้าหรือบริการผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาทางทีวี สปอตทางวิทยุโฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภค
ตอบลบbelow the line การโฆษณาสินค้าโดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เน้นกลุ่มลูกค้าเช่นการยืนแจกสินค้าตัวอย่างสบู่ล้างหน้าหน้ามหาวิทยาลัย แจกขนมตัวอย่างหน้าโรงเรียนระดับมัธยม การออกบู๊ทต่างๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายน้อย เป็นที่นิยมเวลาออกสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ทำให้brand เป็นที่รู้จักเพราะไม่เข้าสู่คนกลุ่มมาก
Through the Line นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่าง Below the Line และ Above the line ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า Above the line และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน
นางสาวนิจวรรณ พวงแก้ว เลขที่14 กต.552
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบAbove the line การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสื่อพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่าไร เหมาะสำหรับสินค้าหรือ brand ที่ติดตลาดแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อสร้างbrand awareness ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวbrandของสินค้ามากขึ้น
ตอบลบBelow the line การโฆษณาสินค้าโดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เน้นกลุ่มลูกค้าเช่นการยืนแจกสินค้าตัวอย่างสบู่ล้างหน้าหน้ามหาวิทยาลัย แจกขนมตัวอย่างหน้าโรงเรียนระดับมัธยม การออกบู๊ทต่างๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายน้อย เป็นที่นิยมเวลาออกสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ทำให้brand เป็นที่รู้จักเพราะไม่เข้าสู่คนกลุ่มมาก
Through the line เป็นแนวคิดใหม่ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยกระหว่าง Above the Line หรือการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (Mass Media) อย่างโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โรงภาพยนตร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ ส่วน Below the Line คือการใช้สื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน (Non Mass Media) แม้ว่าจะไม่มีการแบ่งไลน์ แต่การสื่อสารไปถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ยังเป็นเอกภาพที่ชัดเจน
อนันต์ แถลงศรี กต552 เลขที่48
1.(ATL) คือ above the line การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสื่อพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่าไร เหมาะสำหรับสินค้าหรือ brand ที่ติดตลาดแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อสร้างbrand awareness ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวbrandของสินค้ามากขึ้น
ตอบลบ2.(BTL) คือ below the line การโฆษณาสินค้าโดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เน้นกลุ่มลูกค้าเช่นการยืนแจกสินค้าตัวอย่างสบู่ล้างหน้าหน้ามหาวิทยาลัย แจกขนมตัวอย่างหน้าโรงเรียนระดับมัธยม การออกบู๊ทต่างๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายน้อย เป็นที่นิยมเวลาออกสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ทำให้brand เป็นที่รู้จักเพราะไม่เข้าสู่คนกลุ่มมาก
3.(TTL) คือ Through the line นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่างบีโลว์เดอะไลน์ และอะบัพว์เดอะไลน์ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า "อะบัพว์เดอะไลน์" และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน (non-mass media) ดังที่กล่าวถึงข้างต้นว่า "บีโลว์เดอะไลน์" นั่นเอง
ชื่อ น.ส.จารุจิต มณี กต.552 เลขประจำตัว 5510101203 เลขที่ 3 ค่ะ
1.(ATL) คือ above the line การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสื่อพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่าไร เหมาะสำหรับสินค้าหรือ brand ที่ติดตลาดแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อสร้างbrand awareness ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวbrandของสินค้ามากขึ้น
ตอบลบ2.(BTL) คือ below the line การโฆษณาสินค้าโดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เน้นกลุ่มลูกค้าเช่นการยืนแจกสินค้าตัวอย่างสบู่ล้างหน้าหน้ามหาวิทยาลัย แจกขนมตัวอย่างหน้าโรงเรียนระดับมัธยม การออกบู๊ทต่างๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายน้อย เป็นที่นิยมเวลาออกสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ทำให้brand เป็นที่รู้จักเพราะไม่เข้าสู่คนกลุ่มมาก
3.(TTL) คือ Through the line นั้นเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่ได้แบ่งแยก ระหว่างบีโลว์เดอะไลน์ และอะบัพว์เดอะไลน์ออกจากกันดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้นักการตลาดมักเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ใช้สื่อมวลชน (mass media) อย่างวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โรงภาพยนตร์ โปสเตอร์ หรือสื่อสาธารณะอื่นๆ เป็นหลักว่า "อะบัพว์เดอะไลน์" และในทางตรงกันข้ามก็จะเรียกรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่ไม่ใช้สื่อมวลชน (non-mass media) ดังที่กล่าวถึงข้างต้นว่า "บีโลว์เดอะไลน์" นั่นเอง
ชื่อ น.ส.จารุจิต มณี กต.552 เลขประจำตัว 5510101203 เลขที่ 3 ค่ะ
1.ATL การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ก็ทำให้เกิดการรับรู้ในตัวสินค้าเยอะขึ้นเหมือนกันแต่อาจจะไม่ตรงกีบกลุ่มเป้าหมาย
ตอบลบ2.BTL การโฆษณาสินค้าโดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงเน้นกลุ่มลูกค้า เช่นการยืนแจกสินค้าตัวอย่าง
3.TTL เป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารการตลาด ในรูปแบบที่ไม่แยกระหว่าง ATLและ BTLออกจากกัน
น.ส. สุคนทิพย์ กองทอง เลขที่ 45 กต.552